วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

กรุงกัวลาลัมเปอร์

                                 

                      เมืองหลวง10ประเทศอาเซียน

                                      ประเทศมาเลเซีย






                                                       ประวัติความเป็นมากรุงกัวลาลัมเปอร์

กัวลาลัมเปอร์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1857 โดยกลุ่มคนงานเหมืองที่ค้นพบแร่ดีบุกบริเวณสันดอนปากแม่น้ำซึ่งแม่น้ำกอมบักและแม่น้ำคลางมาบรรจบกัน ผู้บุกเบิกเหล่านั้นต่างก็หัวรุนแรงและมีร่างกายใหญ่โตกำยำ ซึ่งภาพลักษณ์เช่นนี้ยังคงเห็นอยู่ในยุคแรกเริ่มที่กัวลาลัมเปอร์เพิ่งเปิดเป็นจุดหมายการท่องเที่ยว ภายใน 150 ปีกัวลาลัมเปอร์ได้พัฒนาประเทศและเติบโตขึ้นจาก 'สันดอนที่เป็นโคลนตม' (ความหมายของกัวลาลัมเปอร์) มาเป็นเมืองที่ทันสมัยด้วยประชากรกว่าล้านคนในปัจจุบันผู้ที่ค้นพบเมืองกัวลาลัมเปอร์อย่างเป็นทางการได้แก่ ‘กัปตันเรือชาวจีน’ ชื่อ Yap Ah Loy ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสุลต่านในการนำชาวจีนที่ระเหเร่ร่อนเข้ามาจัดระเบียบและตั้งถิ่นฐานที่นี่ ในปีค.ศ.1880 กัวลาลัมเปอร์ค่อยๆ พัฒนาจนกลายเป็นเมืองอย่าง ‘แท้จริง' โดยกลุ่มชาวเหมืองที่ประสบความสำเร็จและพ่อค้าต่างๆเริ่มปลูกสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในย่านจาลันอัมปัง (Jalan Ampang) อีกทั้งชาวอังกฤษชื่อ แฟรงค์ สเว็ทเท็นแฮม ได้เขียนร่างผังเมืองกัวลาลัมเปอร์ขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงนั่น ต่อมาในปีค.ศ. 1886 ได้จัดสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมโยงกัวลาลัมเปอร์ไปยังท่าเรือคลาง หลังจากนั้นเมืองก็มีการพัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
กัวลาลัมเปอร์ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแหล่งธุรกิจและการลงทุนเพื่อการค้าของมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังศูนย์กลางทางการเมืองและเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยแผนการดำเนินการที่มุ่งหวังให้กัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนในปี 2020 กัวลาลัมเปอร์จึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องปีต่อปีหรืออาจเติบโตเกือบจะวันต่อวัน ซึ่งในปัจจุบันภายในเมืองมีตึกระฟ้าสร้างขึ้นจำนวนมากจนกลายเป็นป่าคอนกรีตในเวลาชั่วพริบตาแม้ว่าล่าสุดนั้นเมืองจะมีการเติบโตและพัฒนาเป็นอย่างมาก แต่กัวลาลัมเปอร์ยังคงรักษาความงดงามในอดีตไว้เช่นเดิม สามารถพบเห็นอาคารสิ่งปลูกสร้างสมัยยุคอาณานิคมตั้งเด่นสง่าอย่างน่าภูมิใจ เชื่อมต่อไปบนพื้นที่ทางเท้าที่มีสิ่งก่อสร้างรูปแบบทันสมัยมากมายย่านกลางใจเมืองคลาคล่ำไปด้วยร้านขายของริมทางเท้าและสีสันของตลาดยามค่ำคืน ทำให้เมืองแห่งนี้มีชีวิตชีวาและน่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่แวะมาเยือน เพลิดเพลินไปกับลีลาท่าทางของเหล่าพ่อค้าที่พยายามแข่งขันจูงใจผู้ซื้อด้วยวิธีต่างๆ เที่ยวชมศาสนสถานที่ตั้งเรียงรายสองข้างถนน ซึ่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ สวยงามแตกต่างกันไปตามความเชื่อและประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละศาสนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น